ศิลปินนักร้องลูกทุ่งหมอลำ



ศิลปินนักร้องลูกทุ่งหมอลำ


เสถียร ทำมือ
เสถียร สุภากุล (เสถียร ทำมือ)
ภูมิลำเนา บ้านกระสัง อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ
การศึกษา ประถมฯ ที่โรงเรียนกระสัง อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ
มัธยมฯ โรงเรียนกำแพง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ
อุดมศึกษา จบปริญญาตรี จากคณะศิลปกรรมศาสตร์
สาขา ดนตรีสากล จากมหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี
ผลงาน อัลบั้มเดี่ยว ฝันให้ไกลไปให้ถึง
อัลบั้มเดี่ยว อยู่ที่ไหนก็เหงาได้
เรียบเรียงดนตรี และเป็นโปรดิวเซอร์ให้ศิลปินท้องถิ่นอีสานใต้
หน้าที่การงานปัจจุบัน ทำธุรกิจห้องบันทึกเสียง ทอรุ้งสตูดิโอที่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ
กำลังทำอัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 3 กำลังใจที่เธอไม่รู้ ในสังกัดแกรมมี่โกลด์
เป็นศิลปินและคนทำงานเบื้องหลังให้ศิลปินคนอื่นๆ ในบริษัท แกรมมี่โกลด์




ศิริพร อำไพพงษ์

ประวัติ

ศิริพร อำไพพงษ์ เกิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2507 ที่บ้านดอนกลอย ตำบลดอนกลอย อำเภอหนองหาน (ปัจจุบันแยกมาเป็นอำเภอพิบูลย์รักษ์) จังหวัดอุดรธานีมีพี่น้องทั้งหมด 10 คน ศิริพรเป็นคนที่ 7 ครอบครัวมีอาชีพทำนา และมีวงหมอลำด้วยโดยมีคุณพ่อเป็นหมอลำอยู่แล้ว และเป็นผู้สอนให้ศิริพรเป็นหมอลำ เมื่อปี พ.ศ. 2527 เธออยู่กับหมอลำคณะ สุเทพ ดาวดวงใหม่ และได้รู้จักกับ คุณนคร แดนสารคาม และคุณประยูร จันทร์สอน ได้พาไปออกทีวีช่อง 4 จ.ขอนแก่น และคุณดอย อินทนนท์ได้เห็นแววจึงให้โอกาสอัดเสียงและได้รับการเปลี่ยนชื่อจาก ศิริมา เป็น ศิริพร

ศิริพรเป็นบุคคลที่ถูกยกย่องว่าเป็นศิลปินในดวงใจของใครหลายๆคน เพราะเธอมีความสามารถที่เหนือชั้นกว่าบุคคลธรรมดา เป็นที่นับถือของลูกๆชาวแฟนคลับทั่วประเทศ ด้วยแฟนคลับรักและศรัทธาในตัวเธอเป็นอย่างยิ่ง และคำว่า แม่นางที่ลูกๆใช้เรียกแทนใจเป็นคำที่สั้นๆ แต่มีความรัก ความผูกพันแอบแฝงอยู่ ด้วยความที่เธอมีนิสัยที่ดี ไม่หยิ่ง ไม่ถือตัว แฟนคลับขอกอดได้ ขอหอมแก้มได้ซึ่งเหตุนี้จึงทำให้เธอมีแฟนคลับทั่วบ้านทั่วเมื่อง

ปัจจุบัน สมรสแล้ว กับ สุชาติ สุขโมนมหาอุดม ผู้จัดการวงดนตรี




นกน้อย อุไรพร

ประวัติ

นกน้อย อุไรพร หรือ นางอุไร ฉิมหลวง (สีหะวงศ์) เกิดเมื่อ 11 ตุลาคม 2500 อยู่ที่บ้านจอม ตำบลยางชุมน้อย อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ เป็นศิลปินหมอลำ นกน้อยเริ่มต้นการเข้าสู่วงการบันเทิงโดยเข้าประกวดร้องเพลงที่สถานีวิทยุเธอกวาดรางวัลชนะเลิศมาทุกเวที ด้วยคะแนนที่เป็นเอกฉันท์ปราศจากข้อกังขา และได้มาสมัครกับพ่อนพดล ดวงพร ในตำแหน่งหางเครื่อง และได้เป็นนักร้องของวงในเวลาซึ่งเพลงนกจ๋าได้รับความนิยมสูงสุด

ต่อมาชื่อนกน้อย อุไรพรนั้นได้จากการนำเอาเพลงนกจ๋า มาเป็นเหมือนตัวแทนก็คือ นกน้อย และเอาชื่อจริงคือ อุไรมาบวกกับคำสุดท้ายของนามสกุลของนพดล คือคำว่า พร มารวมกันจนกลายเป็นนกน้อย อุไรพรนั่นเอง

ประวัติการดำเนินวง

ได้เข้ามาวงการดนตรีพุทธศักราช2518 หลังจากตะเวนประกวดขับร้องทั่วอีสาน โดยไปสมัครเป็นนักร้องที่จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีคณะเพชรพิณทอง เจ้าของคณะพ่อนพดล ดวงพรแล้วตั้งชื่อใหม่ให้เป็นนกน้อย อุไรพร
ต่อมาย้ายมาสังกัดบ้านพักทัมใจโดย อาวทิดหลอด มัยกิจ ฉิมหลวงจัดรายการทางสถานีวิทยุชื่อดังในจังหวัดอุดรธานี และได้แต่งงานกัน หลังจากนั้นก็ตั้งวงดนตรีนกน้อย อุไรพร แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมและขาดทุนเนื่องจากไม่มีการแสดงหมอลำเรื่องต่อกลอน ซึ่งเป็นการนำนิทานพื้นบ้านหรือเรื่องเล่ามาเล่นกันเป็นเรื่องราวแล้วแทรกการร้องเพลงไว้ด้วย เป็นจุดด้อยที่ทำให้ ไม่มีใครจ้างงาน
หลังจากพักวงไปได้ไม่นานจึงปรับการแสดงและการจัดวงให้มีขนาดใหญ่ขึ้นภายใต้ชื่อวงเสียงอิสานหลังจากเริ่มวงครั้งใหม่ 10 ปีต่อมา เป็นระยะเวลาที่บ่มเพราะประสบการณ์ของวงทำให้เป็นที่นิยมกันมาในแถบถาคอีสานจนมีงานจ้างทั่วประเทศตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
โดยจุดเด่นใหญ่ที่มีมนต์สะกดให้ผู้ชมนั้นคือ เล่นทั้งคืนตั้งแต่ 19.00น.ถึง ตี 5 ของอีกวันหนึ่ง พร้อมนักแสดงนับ 100 ชีวิต และการแสดงที่หลากหลาย เรื่องราวที่เข้ากันได้อย่างลงตัวหลังจากยกเครื่องปรับปรุงทีมงานการแสดงได้ไม่นานนัก วงดนตรีลูกทุ่งหมอลำคณะเสียงอิสานก็ได้รับการกล่าวขวัญกันอย่างกว้างขวางเป็นไฟลามทุ่ง นำทีมโดยนกน้อย อุไรพร,ลูกแพร อุไรพร,ปอยฝ้าย มาลัยพร,คำมอส พรขุนเดช,น้องแป้ง ณัฐธิดา,ดาวทอง,ดาวน้อย,ดาวตลก,ดาวรุ่ง เมื่อร้องจนเก่งแล้วจึงลองหัดแต่งกลอนลำร้องเอง ต่อมาก็แต่งให้นักแสดงในวงนำไปร้อง ลำเรื่องต่อกลอนของคณะเสียงอิสาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฮอยปานดำ, ฮอยปูนแดง, วงเวียนชีวิต, เงากรรม,น้ำตาเมีย,คาดทุกข๋บ่ฮ่อนมี,รักนี้มีกรรมและอีกหลายๆเรื่อง และผลงานล่าสุดปานดำ ปูนแดง,วงเวียนชีวิต ตอนใต้ฟ้ากทม.,เงินคือพระเจ้า ข้าวเลี้ยงชีวิตภาค1,2,ไวปากเสียศีล..ไวตีนตกต้นไม้ ล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือของนกน้อย อุไรพร ทั้งนี้และทั้งชื่อเสียงของคณะเสียงอิสานเริ่มขยายวงกว้างเป็นไฟลามทุ่ง ด้วยทีมงานที่ยิ่งใหญ่ขบวนคอนวอยที่ยาวเหยียด เวทีแสงสีเสียงและการแสดงอันตื่นตาตื่นใจ และรูปแบบการเวทีใหม่โดยใช้รถ6ล้อ 2คันกางปีกออก แล้วก็จัดสเต็ปใช้ระบบไฮดรอดริกส์ซึ่งเป็นการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้งและรูปแบบการแสดงใหม่ขอขอบคุณผู้สนับสนุนคำจุนมาโดยตลอด





พรศักดิ์ ส่องแสง

     พรศักดิ์ ส่องแสง (2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2503 – ) นักร้องเพลงลูกทุ่งและหมอลำ เจ้าของฉายา ราชาลูกทุ่งหมอลำมีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นนักร้องเพลงหมอลำคนแรกๆ ที่ออกตระเวนแสดงคอนเสิร์ตในต่างประเทศ

พรศักดิ์ ส่องแสง เกิดที่บ้านโนนสมบูรณ์ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น มีชื่อจริงว่า นายบุญเสาร์ ประจันตะเสน เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวน 6 คน ของนายเฮา และนางแว่น ประจันตะเสน  ในวัยเด็กจบการศึกษาชั้น ป.4 แล้วช่วยพ่อแม่ทำนาที่ บ้านหนองหญ้าลังกา ตำบลปะโค อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี แล้วเข้ารับราชการทหาร จากนั้นตั้งวงดนตรีชื่อ แชมป์อีสานบันทึกเทปชุดแรกเมื่อ พ.ศ. 2524 ชื่อชุด เสือสำนึกบาป

ชื่อ พรศักดิ์ ส่องแสง ตั้งให้โดยครูเพลง รักษ์ วัฒนา หรือ ครูคำหอม ผู้สนับสนุนให้ตั้งวงดนตรี พรศักดิ์ ส่องแสง มีผลงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่องประมาณ 40 ชุด มีชื่อเสียงโด่งดังสูงสุดประมาณปี พ.ศ. 2529-2530 จากเพลง เต้ยสาวจันทร์กั้งโกบออกตระเวนแสดงทั่วประเทศ และออกไปแสดงถึงในต่างประเทศ เคยมีการจัดคอนเสิร์ตประชันกันระหว่าง พรศักดิ์ ส่องแสง กับ เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ ด้วยดนตรีสองแนวต่างสไตล์มาแล้ว ที่สนามกีฬาหัวหมาก 

พรศักดิ์ สมรสกับนางจุฬาวัลย์ ประจันตะเสน ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่จังหวัดหนองบัวลำภู ได้ศึกษาต่อ กศ.น. จนจบ ป.6 และได้รับศิลปศาสตร์บัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาดนตรี จากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ประจำปีการศึกษา 2547-48 

พรศักดิ์ ส่องแสง ได้รับพระราชทานรางวัลลูกทุ่งกึ่งศตวรรษ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2534 และได้รับรางวัลมาลัยทองนักร้องยอดนิยม ประจำปี พ.ศ. 2548

พรศักดิ์ ในวัยเด็กเคยอยากเป็นนักมวย มีลายสักรูปมังกรที่แขนซ้าย บางครั้งจึงได้ฉายาว่า ไอ้หนุ่มแขนซ้ายลายมังกร

พรศักดิ์มีอาการวูบจากโรคหัวใจ 



ที่มา: https://mostolove.wordpress.com/category

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น